รมว.แรงงาน “พิพัฒน์” เปิดประชุมใหญ่สมาพันธ์สหภาพแรงงานฯ เผย รัฐบาล มุ่งส่งเสริมสิทธิแรงงานไทย พัฒนาเศรษฐกิจใหม่ระดับเอเชีย แปซิฟิค ที่ยั่งยืน
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สมาพันธ์สหภาพแรงงานระหว่างประเทศระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 5 โดยมี มิสเตอร์ เฟลิกซ์ แอนโทนี่ ประธานสมาพันธ์สหภาพแรงงานระหว่างประเทศ ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์สหภาพแรงงานระหว่างประเทศ ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำประเทศไทย สมาชิกสมาพันธ์ฯ ผู้แทนองค์การแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ผมมาเปิดการประชุมใหญ่ของสมาพันธ์สหภาพแรงงานระหว่างประเทศระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 5 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ที่มีวาระการประชุมที่สำคัญ อันเป็นการขับเคลื่อนกิจกรรมของสมาพันธ์สหภาพแรงงานระหว่างประเทศ
ซึ่งสมาชิกสหภาพแรงงานต่าง ๆ กว่า 40 แห่ง จาก 35 ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีสมาชิกกว่า 30 ล้านคน และเป็นที่น่ายินดีที่องค์กรแรงงานในประเทศไทย ได้มีส่วนร่วมเป็นสมาชิก ได้แก่ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สภาองค์การลูกจ้างสมาพันธ์แรงงานแห่งประเทศไทย สภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย และสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน ย่อมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมพัฒนาขบวนการแรงงานให้เติบโตอย่างเข้มแข็งเป็นปึกแผ่น ในการรักษาไว้ซึ่งคุณภาพชีวิตและสภาพการจ้างที่ดีต่อผู้ใช้แรงงานในประเทศไทยและต่างประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทุกด้านทั้งภาคเกษตรอุตสาหกรรม และภาคบริการ มีแรงงานทั้งในและนอกระบบมากกว่า 39 ล้านคน รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสิทธิแรงงานที่เป็นสิทธิมนุษยชน ให้แรงงานได้รับความเป็นธรรมในการทำงาน มีสภาพความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมรับมือผลกระทบจากความรุนแรงของสงคราม ตลอดจนการเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยกระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการตามแนวนโยบายรัฐบาล ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาให้แรงงานมีศักยภาพสูงมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของประเทศ โดยผู้ใช้แรงงานมีงานทำและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างทั่วถึง มีความปลอดภัยในการทำงานมีระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ตลอดจนการสร้างและยกระดับการประกันสังคมแก่ผู้ใช้แรงงาน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดมีรายได้ที่เหมาะสมสามารถดำรงชีพของตนเองและครอบครัว ได้อย่างมีความสุขมีความมั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
“กระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้ใช้แรงงานที่จะจัดตั้งหรือร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน สหพันธ์แรงงาน หรือสภาองค์การลูกจ้าง เพื่อเป็นผู้แทนสมาชิกของตนในเรื่องที่เป็นการแสวงหาคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และยังเป็นตัวแทนสมาชิกเข้ามามีส่วนร่วมในองค์กรแรงงานระดับประเทศ ที่มีความมั่นคง มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศดังที่ปรากฏจากการจัดประชุมใหญ่ที่ประเทศไทย ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการเพื่อเป้าหมายคุ้มครองสิทธิแรงงานอันเป็นมาตรฐานขั้นพื้นฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ในนามของรัฐบาล และพร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับองค์การแรงงานในรูปแบบไตรภาคี เพื่อความร่วมมือยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานของไทยอย่างยั่งยืนต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด